วิตามินบีรวม จำเป็นต่อร่างกายแค่ไหน

0
1006

พฤติกรรมการบริโภคของเราเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ส่งผลให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จนถึงขั้นขาดสารอาหารบางชนิดเลยก็มี ไม่ว่าจะเป็นการรีบเร่ง อาหารฟาสฟูดส์ รวมทั้งการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ก็ส่งผลให้ร่างกายไม่แข็งแรง ขาดสารอาหารที่จำเป็นและเป็นประโยชน์ที่ร่างกายจะนำไปใช้ได้ วิตามินจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของอาหารเสริม ที่ได้รับความนิยม เนื่องจากสะดวก และได้สารอาหารที่ต้องการเพียงพอในเวลาสั้นๆ

วิตามินบีรวม

วิตามินบีรวม คือ วิตามินที่ประกอบไปด้วยวิตามินบีหลากหลายชนิดที่เราสามารถพบได้ในอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน การรับประทานวิตามินบีรวมจะช่วยให้ได้วิตามินบีจากอาหารไม่เพียงพอ หรือเพื่อรักษาภาวะขาดวิตามินบีของร่างกายซึ่งจะนำไปสู่อาการป่วยได้ เรามาทำความรู้จักกับวิตามินบีรวมกันก่อนที่จะรับประทานกันคะ

วิตามินบีรวม ประกอบไปด้วยวิตามินบีชนิดต่างๆ อันได้แก่

วิตามินบี 1 (ไทอามีน) ทำหน้าที่ในการเผาผลาญอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต น้ำตาลที่รับประทานเข้าไปให้เป็นพลังงาน ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ช่วยป้องกันการเกิดโรคโลหิตจาง เหน็บชา หากขาดวิตามินบี 1 ร่างกายจะอ่อนเพลีย ชาตามนิ้วมือนิ้วเท้า โดยทั่วไปร่างกายต้องการวิตามินบี 1 0.5 มิลลิกรัม/1,000 กิโลแคลอรี่

วิตามินบี 2 (ไรโบเฟลวิน)  สามารถป้องการอาการปวดศีรษะจากการคิดตลอดทั้งวัน ป้องกันโรคไมเกรน ช่วยให้เส้นผม ผิวหนัง เล็บมีสุขภาพดี ช่วยให้ดูอ่อนกว่าวัย มีประโยชน์ต่อเด็กที่กำลังเจริญเติบโต ป้องกันการเกิดแผลในช่องปากและโรคปากนกกระจอก ปริมาณที่ควรบริโภคต่อวัน 0.4-0.6 มก./วัน

วิตามินบี 3 (ไนอาซิน) ทำหน้าที่ในการเผาผลาญอาหาร ทำให้เกิดพลังงานและการสร้างไขมันดีในร่างกาย ช่วยทำลายไขมันไม่ดี (LDL)ในร่างกาย ทำลายสารพิษจากมลพิษ รักษาสิวที่เกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ

วิตามินบี 5 (กรดแพนโทเทนิก) ทำหน้าที่ต่อการทำงานของสมอง ช่วยให้นอนหลับสนิมมากขึ้น ลดความเครียด บรรเทาอาการข้ออักเสบ และความควบคุมสมดุลของเกลือแร่ ปริมาณที่ควรบริโภค 10 มก./วัน

วิตามินบี 6 (ไพริดอกซีน) ทำหน้าที่เกี่ยวกับการทำงานของสมองและระบบประสาท ช่วยการเผาผลาญโปรตีนในร่างกาย ช่วยปรับสภาพผิวหนังให้เป็นปกติ และช่วยลดอาการอารมณ์แปรปรวนก่อนมีประจำเดือนได้ดี

วิตามินบี 7 (ไบโอติน) ช่วยในเรื่องการเจริญเติบโตของเซลล์ ช่วยบำรุงผิวหนัง ตา ปาก และตับ ช่วยเก็บกักสารอาหารประเภทโปรตีนเพื่อไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆ

วิตามินบี 9 (โฟเลต) ป้องกันภาวะโลหิตจาง เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ช่วยกระตุ้นกระบวนการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง ทำให้ร่างกายไม่เหนื่อยล้าจากการทำงาน

วิตามินบี 12 (โคบาลามิน) มีหน้าที่ในการสร้างเม็ดเลือดให้มีความสมบูรณ์และมีผลต่อการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้มีความจำดี ไม่หลงลืม เสริมสร้างการเจริญเติบโตและช่วยให้เด็กเจริญอาหาร เพิ่มพลังงาน เพิ่มสมาธิ เรามักจะพบการขาดวิตามินชนิดนี้ในผู้สูงวัย เนื่องการมีการหลั่งกรดในกระเพาะที่น้อยลง รวมทั้งการรับประทานอาหารได้น้อยลง ไม่อยากเคี้ยวเนื้อสัตว์ ซึ่งอาจเกิดจากสุขภาพฟันไม่ดี ผู้ที่มีภาวะขาดวิตามินบี 12 จะมีภาวะโลหิตจาก ชาตามปลายมือปลายเท้า และควบคุมกล้ามเนื้อในการทรงตัวหรือเดินได้ไม่ดี ปริมาณที่แนะนำบริโภคต่อวัน 5000 ไมโครกรัม

การรับประทานวิตามินบีรวม นั้นจะช่วยเรื่องของกระบวนการเผาผลาญของแป้ง ไขมันและโปรตีน ยังช่วยเรื่องในการขับเคลื่อนปฎิกิริยาเคมีในสมองและระบบประสาทให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ที่มีความเครียดสูงหรืออยู่ในช่วยวัยทำงาน วิตามินบีรวมมีความจำเป็นอย่างมาก แต่หากใครมั่นใจว่ารับประทานอาหารที่ให้วิตามินครบและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายแล้วก็ไม่จำเป็นต้องรับประทานวิตามินเม็ดได้คะ

ข้อมูลอ้างอิง

Vitamin B คืออะไรและความสำคัญอย่างไร: healthgossip.co
วิตามินบี 12 กับผู้สูงอายุ : ทำไมต้องให้ความสำคัญ: healthathome.in.th

Previous articleวิตามินซี ทำไมต้องของ DHC
Next articleมารู้จักกับ สินเชื่อส่วนบุคคล ก่อนจะยื่นขอ