การจัดไฟแนนซ์รถยนต์ คืออะไร มีกี่รูปแบบ

0
923

ซื้อรถยนต์..แบบจัดไฟแนนซ์ … รถยนต์กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเรามากยิ่งขึ้นทุกวันๆ เพราะความสะดวกสบายในการเดินทางและในการขนสิ่งของ ทำให้คุณจำนวนมากที่พอจะมีกำลังทรัพย์หาซื้อรถยนต์มาใช้ในชีวิตประจำวันกันมากขึ้น คนที่พอมีทุนทรัพย์ก็สามารถซื้อรถด้วยเงินสด แต่ก็มีคนจำนวนมากที่ซื้อรถยนต์แบบผ่อนจ่าย ยอมเสียดอกเบี้ยให้กับบริษัทไฟแนนซ์ ดังนั้นก่อนที่เราจะยอมเป็นหนี้หลายแสนบาท เราก็ควรมีความรู้สักนิดเกี่ยวกับการจัดไฟแนนซ์นะคะ

การจัดไฟแนนซ์รถยนต์
ภาพจาก pixabay.com

ไฟแนนซ์ คือ การเช่าซื้อ เป็นหนึ่งในการขอสินเชื่อ หรือจะอธิบายแบบง่ายๆคือการกู้เงินจากสถานบันการเงิน หรือบริษัทไฟแนนซ์เพื่อนำมาซื้อรถ ซึ่งปัจจุบันนี้มีผู้ให้บริการการเช่าซื้อรถยนต์จำนวนมาก เช่น ธนาคาร บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ สถานบันการเงิน แต่ละผู้ให้บริการก็จะมีข้อกำหนดและสิทธิประโยชน์ต่างกันออกไป

ประเภทของไฟแนนซ์

เราสามารถแบ่งประเภทของไฟแนนซ์ได้ 2 ประเภทใหญ่

  • การจัดไฟแนนซ์กับบริษัทรถยนต์โดยตรง เป็นการเช่าซื้อรถยนต์จากผู้ขายหรือตัวแทนจำหน่ายโดยตรง ไม่ผ่านคนกลาง  เป็นกลยุทธ์ในการส่งเสริมการขายของบริษัทรถยนต์อย่างหนึ่ง ทำให้ผู้ซื้อสะดวกสบายซื้อรถพร้อมจัดไฟแนนซ์ในเวลาเดียวกันได้เลยคะ
  • การจัดไฟแนนซ์สำหรับการซื้อรถยนต์มือสอง ซึ่งปัจจุบันรถยนต์มือสองมีราคาไม่สูงนัก ไม่เกินกำลังผู้ที่อยากได้รถสักคัน แต่ดอกเบี้ยจะค่อนข้างสูงกว่ารถยนต์มือ 1 คะ การจัดไฟแนนซ์สำหรับรถยนต์มือสองสามารถแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ

การจัดไฟแนนซ์ผ่านบริษัทขายรถยนต์มือสองโดยตรง ได้แก่ เต็นท์ขายรถยนต์มือสอง  ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับการจัดไฟแนนซ์ในข้อที่ 1  โดยส่วนมากแล้วบริษัทหรือเต็นท์รถเหล่านี้มักจะมีสถานบันการเงินให้การสนับสนุนอยู่แล้ว

การจัดไฟแนนซ์สำหรับการซื้อ-ขายรถยนต์มือสองกันเอง เป็นการซื้อขายรถยนต์ระหว่างบุคคลขายกับบุคคลผู้ซื้อ ซึ่งผู้ขายอาจลงประกาศขายตามช่องทางต่างๆ เช่น อินเตอร์เน็ต ป้ายประกาศ หรือ บอกปากต่อปาก หากผู้ซื้อไม่สามารถจ่ายเงินสดเป็นก้อนให้แก่ผู้ขายได้ ก็อาจจะทำเรื่องจัดไฟแนนซ์กับทางธนาคารที่ให้บริการเรื่องสินเชื่อรถยนต์ หรือกับทางเต็นท์รถที่มีบริการจัดไฟแนนซ์ให้คะ ต้องเลือดดูว่าดอกเบี้ย ค่างวดในการผ่อน และระยะเวลาที่ผ่อน สอดคล้องกับตัวคุณหรือไม่คะ

รูปแบบสัญญา การจัดไฟแนนซ์

การจัดไฟแนนซ์นั้นจะมีรูปแบบสัญญาอยู่ด้วยกัน 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ สินเชื่อเช่าซื้อ (Hire Purchase) คือ สินค้าจะตกเป็นกรมสิทธิ์ของผู้เช่าซื้อโดยสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อผู้เช่าซื้อทำการชำระเงินครบตามสัญญาเท่านั้น แต่สามารถนำสินค้ากลับไปใช้ได้ตามปกติระหว่างการผ่อนชำระ รูปแบบสัญญานี้จะมีการคิดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ (Flat Rate) ตลอดอายุสัญญา และลีสซิ่ง (Leasing) สำหรับลีสซิ่งเป็นการเช่าซื้อเหมือนกันแต่เมื่อชำระค่างวดครบกำหนดแล้ว ผู้เช่าซื้อมีสิทธิ์ที่จะต่อสัญญาเช่าหรือส่งคืนทรัพย์ดังกล่าวไปยังรายอื่น ซึ่งรูปแบบสัญญาแบบลีสซิ่งมักจะใช้กับนิติบุคคล เช่น การเช่าซื้อเครื่องจักร เครื่องถ่ายเอกสาร เป็นต้น มีการคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก (Effective Rate) ทำให้อัตราดอกเบี้ยในแต่ละงวดลดลงไปด้วย

การจัดไฟแนนซ์นั้นมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากนักนะคะ เพียงคุณติดต่อกับบริษัทจัดไฟแนนซ์ ทางบริษัทก็จะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่การตลาด จัดการรวบรวมเอกสาร และข้อมูลของผู้ซื้อ จัดส่งให้ฝ่ายตรวจสอบ ซึ่งจะทำหน้าที่ในการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ และข้อเท็จจริงของข้อมูลที่ผู้ขอจัดไฟแนนซ์ยื่นไป หลังจากนั้นก็จะส่งเรื่องต่อให้ฝ่ายตรวจสอบเครดิตพิจารณา เมื่อทุกอย่างผ่านแล้ว ทางบริษัทจะแจ้งอนุมัติให้ผู้ซื้อ ส่วนมากจะทราบผลอนุมัติภายใน 7 วัน เจ้าหน้าที่ก็จะติดต่อมาเพื่อให้ผู้ขอจัดไฟแนนซ์ทราบข้อมูลเกี่ยวกับ ดอกเบี้ย ระยะเวลาในการผ่อน และจำนวนเงินที่จะผ่อนในแต่ละงวด ซึ่งจะมีหลายแบบแล้วแต่ลูกค้าจะตัดสินใจเลือก  เช่น ระยะเวลาในการผ่อน อัตราดอกเบี้ย จำนวนเงินดาวน์ เป็นต้น

ก่อนตัดสินใจเลือกจัดไฟแนนซ์รถยนต์ ลงพิจารณาข้อดีและข้อเสียให้รอบคอบเสียก่อน และเลือกรูปแบบการจัดไฟแนนซ์ให้เหมาะสมกับรายได้ของตนเองให้มากที่สุดนะคะ